การโหมโรง Samsung Galaxy S6 แบบ แพ็คคู่ แม้ดีไซน์พร้อมกับฟีเจอร์โดยรวมแทบไม่ต่างกัน แต่ความน่าสนใจของ Galaxy S6 Edge อยู่ที่หน้าจอแสดงผลที่โค้งเอียงลงทั้งด้านซ้ายและขวา ซึ่งนอกจากจะเป็นการแสดงเทคโนโลยีด้านจอภาพของ Samsung เองแล้ว Galaxy S6 Edge ยังมีอีก 5 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน ?
1. หน้าจอด้านข้างเสมือนจอที่สอง
หน้าจอที่โค้งเอียงลงมาด้านข้างของ Galaxy S6 Edge ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อความเลิศหรู แต่มันเก่งเป็นหน้าจอแสดงผลไม่ใช่หรือแจ้งเตือนได้ พร้อมกับสนับสนุนให้ผู้ใช้รอบรู้กำหนดแอพพลิเคชันที่ใช้บ่อยครั้ง เพื่อการเรียกใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
2. แบตเตอรี่กับการทำงานร่วมกับชิปประมวลแบบใหม่
แม้ Galaxy S6 Edge จักให้แบตเตอรี่ความจุปาง 2600 mAh ซึ่งน้อยกว่าที่หลายคนคาดหวัง แต่ด้วยชิปประมวลแบบใหม่ที่ Samsung ระบุว่าเป็นการออกแบบภายใต้สถาปัตยกรรม 14 นาโนเมตร จะคอยช่วยจัดสรรการใช้พลังงานได้อย่างประสิทธิภาพ รวมไปถึงเป็นการลดการใช้ พลังงาน ส่งผลดีต่อชั่วโมงการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น
3. แบตเตอรี่ถอดไม่ได้อีกถัดจาก
หลายคนที่ใช้สมาร์ทโฟนของ Samsung อาจคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ หรือไม่การถอดแบตเตอรี่ในกรณีที่เครื่องค้าง เป็นต้น แต่เกี่ยวกับใน Samsung Galaxy S6 Edge ไม่ก็ Galaxy S6 จะไม่สมรรถถอดแบตเตอรี่ได้อีกถัดจากนั้น ดังนั้นสมมุติแบตเตอรี่ใกล้จักหมดทางเระบือกที่ช่วยยืดชั่วโมงการใช้งาน คือการใช้ Ultra Saving Mode หรือไม่ก็การใช้ Power Bank นั่นเอง
4. ตำแหน่งของลำโพง
แม้สาวก iPhone จักแอบเหน็บแนมว่าบางส่วนของการออกแบบ Samsung Galaxy S6 Edge เหรอ Galaxy S6 จะมีความคล้ายคลึงกับ iPhone 6 / iPhone 6 Plus อาทิ ตำแหน่งลำโพงที่ถูกยักย้ายมาอยู่ด้านล่างตัวเครื่อง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้มาพร้อมกับประสิทธิภาพของเสียงที่ดีขึ้นพร้อมด้วย ความดังที่มากขึ้นเช่นกัน
5. Micro SD ไม่มีอีกแล้ว
ความจุภายในของ Samsung Galaxy S6 Edge ไม่ก็ Galaxy S6 เปิดม่านต้นที่ 32 GB, 64 GB พร้อมทั้ง 128 GB ตามลำดับ ซึ่งสิ่งที่คู่กับตระกูล Galaxy S มาโดยตลอดนั่นคือ micro SD เพราะด้วยการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูล แต่ในเจเนอเรชั่นที่ 6 ทาง Samsung ได้ตัดสิ่งนี้ออกไป พร้อมกับยกเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Universal Flash Storage หน่วยความจำใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพราะว่า Samsung ช่วยให้การอ่านหรือว่าเขียนข้อมูลทำได้เร็วพร้อมด้วยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Samsung Galaxy S6 Edge เตรียมวางขาย 10 เมษายน ศกนี้
ภาพจาก Wired
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น