วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

นวนิยายสมัยไซเบอร์ บันทึกที่ ′ทำลายตัวเอง′

ย้อน กลับไปพอราว 15 ปีที่แล้ว ต้นปี 2000 นักเขียนใหญ่แนวสยองขวัญ สตีเฟน คิง เปิดให้ดาวน์โหลดนิยายในรูปแบบอีบุ๊กที่ถือกันว่าเป็นอีบุ๊กเล่มแรกในตลาด แมสมาร์เก็ต ใน 24 ชั่วโมงแรกยอดดาวน์โหลดนิยาย ไรดิ้ง เดอะ บุลเล็ต ขึ้นไปสูงกว่า 400,000 ก๊อบปี้
ถือเป็นการบุกเบิกอีบุ๊กสู่โลกของ การอ่านในยุคซึ่งเราแทบไม่รู้จักเครื่องอ่านอีบุ๊กกันเสียด้วยซ้ำ ก่อนหน้านั้นในปี 1999 มีเครื่องร็อกเก็ต อีบุ๊กที่รู้จักกันในวงแคบมากๆ ถัดมาปี 2004 โซนี่ออกเครื่องอ่านอีบุ๊กในญี่ปุ่นพร้อมทั้งถัดมาสองปีก็มีโซนี่ รีดเดอร์ ที่ทำให้ตลาดโหมโรงรู้จักกับอุปกรณ์ชนิดนี้มากขึ้น

ไม่ต้อง พูดถึงสมาร์ทโฟนพร้อมด้วยแท็บเล็ตซึ่งเกิดทีหลังนานมาก ที่ดาวน์โหลดไปอ่านกันช่วงเวลานั้นก็อ่านกันอยู่บนพีซีนั่นละครับ แม้ทุกวันนี้อีบุ๊กส่วนใหญ่ก็ยังอ่านกันบนพีซี เพราะว่ามีเครื่องอ่านอีบุ๊กรองลงมา แท็บเล็ตกับสมาร์ทโฟนรั้งท้าย

เท่า ที่จำได้สตีเฟน คิง ยังเคยใช้วิธีเปิดดาวน์โหลดนิยายแบบขยักเพราะตั้งเป้าว่าสมมติยอดดาวน์โหลดเล่ม แรกไม่ถึงเป้าก็จักไม่มีเล่มจากนั้นออกมาให้อ่าน กับดูเหมือนว่าจักไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

มาถึงยุคนี้อีบุ๊ก เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย นักเขียนมีชื่อระดับสตีเฟน คิง ไม่ต้องมาบุกเบิกแผ้วถางทางอะไรอีกแล้ว ก็แค่ผลิตงานดีๆ ออกมา ใครใคร่จะซื้อรูปแบบไหนไปอ่านก็เเลื่องลือกเอาตามใจชอบ

แต่ถ้าคิดอย่างนั้นกันเสียหมดก็คงไม่มีอะไรใหม่ๆ มาให้ได้สนุกกัน ล่า สุด นักเขียนนิยายระดับเบสต์ เซลเลอร์ อีกคนที่ขอลองเล่นด้วยคือ เจมส์ แพตเตอร์สัน เป็นหนึ่งในนักเขียนที่มีรายได้จากการเขียนสูงที่สุดในโลก หนังสือของแพตเตอร์สันทุกจำพวกทั้งเรื่องแต่งพร้อมด้วยสารคดีมียอดขายรวมกันทั่ว โลกแล้วคาดคะเน 300 ล้านเล่ม

ถึงจักเป็นลูกเล่นการตลาดก็เป็นลูกเล่น ที่น่าสนุก ก็เพราะว่าก่อนที่หนังสือนิยายเล่มล่าสุดของเขาเรื่องไพรเวท เวกัส ที่บุกเบิกวางตลาดครั้งแรกวันที่ 26 มกราคมนั้น เปิดขายก๊อบปี้แรกกันที่สนนราคาสูงถึง 294,038 เหรียญสหรัฐ แต่คนที่ซื้อจะได้เดินทางส่วนตัวไปยังสถานที่หรูหราซึ่งไม่เปิดตีแผ่ กับได้ร่วมดินเนอร์ชุดใหญ่กับแพตเตอร์สัน เพราะจะมีหน่วยสวาทมานำส่งหนังสือ

เหมือนกับการดึงเอาคนอ่านเข้าสู่โลกของนิยายด้วยตัวเอง เช่นแต่โอาสนี้จะเป็นของคนเหมือนคนเดียวที่มีเงินด้วยว่าละลายเล่นเท่านั้น

ประเด็น ถัดมาน่าสนใจกว่านั้นก็คือคนอีก 1,000 คนแรกในสหรัฐมีโอกาสเข้าถึงนิยายเล่มนี้ในแบบฟรีๆ จนกระทั่งวันที่ 21 มกราคมที่ทะลุทะลวงมา เพราะว่ามีเวลาในการอ่านให้จบแทบ 24 ชั่วโมง ปางครบกำหนดหนังสือก็จักหายไป พูดให้สนุกก็อาจจักเผยว่าหนังสือจะระเบิดไม่ใช่หรือทำลายตัวเองภายใน 24 ชั่โมง ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก

แฟนนักอ่านของแพตเตอร์สันที่เหเลื่องไม่ได้ถูกทอด ทิ้งให้เป็นเพียงคนอ่านธรรมดา เพราะว่าแพตเตอร์สันเปิดโอกาสให้เข้าร่วมประสบการณ์กับเหตุการณ์นี้ได้ด้วยการ เข้าไปติดตามความคืบหน้าในการอ่านของ 1,000 คนแรกนั้นตามเวลาแน่นอน พร้อมด้วยพยายาม โขมยเวลา ของพวกเขาทะลุเว็บไซต์ใหม่ที่จัดทัพขึ้นมา selfdestructingbook.com ซึ่งจะทำให้เวลาอ่านที่มีอยู่แค่ 24 ชั่วโมงของคนเหล่านั้นสั้นลงอีก

เท่าที่เข้าไปดูตอนที่กำลังเขียนบท ความนี้มีหนังสือที่ทำลายตัวเองไปแล้ว 115 เล่ม ที่กำลังอ่านอยู่ 111 เล่ม พร้อมกับมีเหระบือให้อ่านได้อีกราว 500 เล่ม มุ่งหมายเห็นตอนที่หนังสือมันทำลายตัวเองว่าจะทำออกมาแบบไหน มีเอฟเฟ็กต์อะไรชวนให้ตื่นเต้นไม่ก็เปล่า แต่คงไม่มีโอกาสเพราะว่าไม่ได้อยู่ในสหรัฐ

แพตเตอร์สันถือได้ ว่าเป็นตัวอย่างหนึ่งของนักเขียนที่เอาเทคโนโลยียุคใหม่มารับใช้ ผสมผสานกับงานเขียนนิยายของเขา สร้างสรรค์ประสบการณ์การอ่านแบบใหม่
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น